การรับสมัคร
รับสมัครนักเรียน ชาย–หญิง ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 อายุ 3 – 20 ปี การรับสมัครต้องมีผู้ปกครองมาสมัคร ทำใบมอบตัวด้วยตัวเอง พร้อมทั้งนำเด็กมาด้วย และชำระค่าธรรมเนียมการเรียนในวันสมัครเรียน

ระดับอนุบาล 1 – 2 – 3 และประถมศึกษาปีที่ 1
เอกสารที่ต้องนำมาในวันสมัคร คือ
- สำเราสูติบัตร
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 4 รูป

ระดับประถมศึกษาปีที่ 2 , 5
เอกสารที่ต้องนำมาในวันสมัคร คือ
- ปพ.1 , ปพ. 4 , ปพ. 6 , ปพ. 8 , ปพ. 9
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 4 รูป

ระดับประถมศึกษาปีที่ 3 , 4 , 6
เอกสารที่ต้องนำมาในวันสมัคร คือ
- ป. 04 , ปศ. 20
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 4 รูป
- บัตรสุขภาพ ( ระเบียนสะสม )

ระดับมัธยมศึกษา
เอกสารที่ต้องนำมาในวันสมัคร คือ
- ใบ ป.05 ( สมัครเรียน ม.1 )
- รบ 1 – ต ( สมัครเรียน ม.2 – ม.3 )
- สำเนาทะเบียนบ้าน , สมุดประจำตัวนักเรียน , รูปถ่าย 1 นิ้ว 1 รูป
- นักเรียนที่จะสมัครเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2–3 ต้องนำแผนการเรียนจากโรงเรียนเดิม
- ใบ รบ.1-ต หรือสมุดประจำตัวนักเรียนมาเทียบแผนการเรียนก่อน
Back to Top

กำหนดเวลาเรียน แบ่งเป็นสองภาคเรียน ดังนี้
ภาคเรียนที่ 1 เริ่มเรียน วันที่ 16 พฤษภาคม ถึง วันที่ 10 ตุลาคม
ภาคเรียนที่ 2 เริ่มเรียน วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 30 มีนาคม
Back to Top

ระเบียบการทั่วไป
นักเรียนโรงเรียนบุรารักษ์ พึงประพฤติและปฏิบัติตนดังนี้
1. นักเรียนต้องมาโรงเรียนให้ทันเข้าแถวเคารพธงชาติ
2. นักเรียนต้องมีเครื่องเขียน แบบเรียน และเครื่องใช้ต่าง ๆ ครบตามที่โรงเรียนกำหนด
3.นักเรียนต้องแต่งกายและปฏิบัติตนตามกฎระเบียบ ข้อบังคับของกระทรวงศึกษาธิการและของโรงเรียน
4. นักเรียนต้องปฏิบัติให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นนักเรียนด้วยการไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพสิ่งเสพติด
ไม่ดื่มสุรา ไม่เล่นการพนัน และอบายมุขอื่น ๆ
5. นักเรียนต้องสุภาพอ่อนโยน มีสัมมาคารวะต่อครูอาจารย์และบุคคลทั่วไป
6. นักเรียนต้องไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนและตนเอง
7. นักเรียนต้องยึดมั่นในศีลธรรม มีคุณธรรมประจำใจ
Back to Top

ระเบียบการมาโรงเรียน
โรงเรียนจะให้สัญญานเข้าแถวเวลา 7.45 น. ของทุกวันที่มีการเรียนการสอน ถ้านักเรียนมาโรงเรียนหลังเวลา 8.00 น. ถือว่ามาโรงเรียนสาย การมาโรงเรียนสาย 3 ครั้ง จะถือว่าขาดเรียน 1 วัน ทางโรงเรียนจะว่ากล่าวตักเตือน ถ้ามีการมาสายอีกจะถูกลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ. 2515 หลังจากเลิกเรียนนักเรียนจะอยู่ภายในบริเวณโรงเรียนได้ไม่เกิน 18.00 น
Back to Top

การลาหยุด
การลาป่วย การลากิจ การลาก่อนเวลาเลิกงาน
การลาป่วย นักเรียนลาป่วย 1 วัน ให้ผู้ปกครองเซ็นรับรองในใบลาส่งครูประจำชั้นในวันแรกที่มาเรียน นักเรียนลาป่วยเกิน 1 วัน ส่งใบลาพร้อมใบรับรองแพทย์ต่อครูประจำชั้นในวันแรกที่มาเรียน
การลากิจ นักเรียนต้องส่งใบลาล่วงหน้า 1 วัน พร้อมผู้ปกครองเซ็นรับรอง
การลาก่อนเวลาเลิกเรียน ถ้าต้องการลานักเรียนกลับบ้านก่อนเลิกเรียน ให้ผู้ปกครองมารับพร้อมกับกับนำบัตรรับนักเรียนมาติดต่อที่ห้องธุรการ
Back to Top

การนำอุปกรณ์สิ่งของมาโรงเรียน
ระเบียบว่าด้วยการนำอุปกรณ์สิ่งของมาโรงเรียน
1. นักเรียนที่นำอุปกรณ์ประกอบการเรียนมาโรงเรียนต้องเก็บรักษาให้ดี และนำกลับบ้านด้วยทุกครั้ง
2. ห้ามนำสิ่งของใด ๆ ที่ไม่ใช่อุปกรณ์ประกอบการเรียนมาโรงเรียน เช่น วิทยุ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเล่นเกม วิทยุติดตามตัว อาวุธ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สิ่งเสพติด เครื่องสำอาง เครื่องประดับของมีค่า เช่น สร้อยคอ กำไลข้อมือ ตุ้มหู แหวน และอื่น ๆ ตามที่โรงเรียนกำหนด
3. นาฬิกาข้อมือให้ใช้แบบสุภาพ ไม่มีลวดลาย สีไม่ฉูดฉาด ขนาดไม่ใหญ่โตเกินไป
4. การใช้สร้อยคอเพื่อห้อยสิ่งเคารพบูชา อนุญาตให้ใช้สร้อยสแตนเลสข้อเล็กเก็บไว้ในเสื้อให้เรียบร้อย
5. อุปกรณ์การเรียนทั้งหมดต้องนำกลับบ้านไม่เก็บไว้ที่โรงเรียนยกเว้นของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
Back to Top

ระเบียบว่าด้วยการจำหน่ายออกและการลาออก
นักเรียนระดับอนุบาล, ประถมศึกษา, และมัธยมศึกษา ผู้ปกครองต้องแสดงความจำนงค์ เป็นลายลักษณ์อักษร ขอลาออกภายในวันที่ 26 พฤษภาคมของทุกปี
หมายเหตุ ถ้าลาออกหลังจากวันที่ 26 พฤษภาคม จะต้องชำระค่าธรรมเนียมการเรียนของภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษาต่อไป
Back to Top

ระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียน
การลงโทษ หมายถึง การลงโทษนักเรียนที่ประพฤติผิดหรือฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ ของสถานศึกษาหรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือฝ่าฝืนกฎกระทรวงศึกษาธิการ ออกตามความใบประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 โดยมีความมุ่งหมายเพื่อสั่งสอนให้มีความประพฤติดีหรือให้เข็ดหลาบ
การกระทำผิด หมายความว่า การที่นักเรียนหรือนักศึกษาประพฤติผิดหรือฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ ของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือกฎกระทรวงออกตามความใบประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515
ทำกิจกรรม หมายความว่า การให้นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำผิด ทำกิจกรรมหรือบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง สถานศึกษา หรือสังคม
การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำผิดมี 5 สถาน ดังนี้
1. ว่ากล่าวตักเตือน
2. ทำกิจกรรม
3. ทำทัณฑ์บน
4. พักการเรียน
5. ให้ออก

ให้สถานศึกษาพิจารณาลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษา ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 การว่ากล่าวตักเตือนใช้สำหรับนักเรียนที่กระทำความผิดไม่ร้ายแรงเมื่อหัวหน้าสถานศึกษาหรือ ครู อาจารย์ ที่หัวหน้าสถานศึกษามอบหมายเห็นว่าเหมาะสมและได้ผลดี
ข้อ 2 การทำกิจกรรมใช้สำหรับกรณีที่นักเรียนหรือนักศึกษากระทำผิดระเบียบวินัยของสถานศึกษา หรือศีลธรรมอันดี หรือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้นักเรียนหรือนักศึกษาอื่นประพฤติปฏิบัติตาม ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สถานศึกษากำหนด
ข้อ 3 การทำทัณฑ์บนให้หัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาลงโทษนักเรียนที่ประพฤติตนไม่สมควรแก่สภาพนักเรียนตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ ตามความใบประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ในกรณีที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติศักดิ์ของสถานศึกษาหรือฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับของสถานศึกษา อย่างร้ายแรง หรือได้รับโทษอย่างอื่นแล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบ ให้ทำทัณฑ์บนไว้เป็นหลักฐาน และเชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มาบันทึกรับรองการทำทัณฑ์บนไว้ด้วย
ข้อ 4 ในกรณีที่นักเรียนได้ทัณฑ์บนไว้เป็นหลักฐานแล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบ ยังคงฝ่าฝืนและกระทำผิดซ้ำเช่น เล่นการพนัน ทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน ลักขโมย ประพฤติตนเรื่องชู้สาว ก่อการทะเลาะวิวาททั้งในและนอกโรงเรียน สูบบุหรี่ กัญชา ยาเสพติดของมึนเมา หรือประพฤติตนที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่โรงเรียน ให้พักการเรียน ตั้งแต่ 3 -5 วัน
ข้อ 5 การให้ออก ถ้านักเรียนคนใดประพฤติตนไม่สมควรแก่สภาพนักเรียน หรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา หรือประพฤติผิดศีลธรรมจนเป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียน ให้ผ่านมติของคณะกรรมการฝ่ายปกครอง และนำเสนอครูใหญ่ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
Back to Top